Sicario (9/10)
นับตั้งแต่ Traffic ของโซเดอเบิร์กเข้าฉายกวาดออสการ์ไป 4 รางวัล ก็ไม่มีหนังเรื่องไหนหยิบยกปัญหายาเสพติดชายแดนอเมริกา-เม็กซิโกมาพูดถึงเป็นจริงเป็นจังสักที จนกระทั่งการมาของ Sicario ที่แม้จะหยิบพล็อตชินตาของเจ้าหน้าที่เล่นนอกกฎมานำเสนอ แต่ตัวหนังทำให้เราเชื่อด้วยรูปแบบปฏิบัติการนอกกฎที่สมจริงภายใต้ขอบเขตอำนาจทางทหาร
-------------------------------
'เคท' (Emily Blunt) เจ้าหน้าที่ FBI ที่ยึดมั่นในอุดมการณ์ความถูกต้องของขั้นตอนต่าง ๆ ได้อาสาร่วมทีมปฏิบัติการทำสงครามยาเสพติดภายใต้คำสั่งของรัฐบาล นำทีมโดย 'แมตต์' (Josh Brolin) และ 'อเลฮานโดร' (Benicio Del Toro) ซึ่งทีมของพวกเขาไม่ได้เล่นตามขั้นตอนตามกฎหมายแบบที่เธอยึดมั่น
.
ถ้าจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพรวมของหนังคงต้องบอกว่ามันหยิบเนื้อหาสงครามยาเสพติดเข้มข้นแบบ Traffic มาทำเป็นหนังแนวแอ็คชั่น-ทริลเลอร์ปฏิบัติการทางทหารแบบ Zero Dark Thirty ซึ่งเป็นการผสมจุดแข็งของทั้งสองเรื่องออกมาได้อย่างกลมกล่อม ชวนให้เห็นภาพปัญหายาเสพติดชายแดนที่เป็นภัยร้ายแรงต่ออเมริกามายาวนาน ภารกิจในหนังกล่อมจนเราเชื่อว่ามันเป็นหนทางที่จะสามารถเอาชนะสงครามครั้งนี้ได้ถ้าหากเรากลายเป็นผู้ควบคุมกฎ
.
บทหนังทำได้ดีในการเล่นกับกรอบการทำสงครามยาเสพติดใต้ดินโดยอิงความเป็นจริงบนโลกมนุษย์ มันไม่ใช่หนังประเภทที่บอกว่าจะเปิดสงครามกลางเมืองกวาดล้างพ่อค้ายาเสพติด ซึ่งจะส่งผลกระทบกระเทือนความมั่นคงอย่างแน่นอน แต่มันมีขั้นมีตอนนอกกฎหมายที่จะพาภารกิจไปถึงเป้าหมายสูงสุดคือการเด็ดหัวเจ้าพ่อรายใหญ่ โดยที่ทั้งหมดยังอยู่ภายใต้การคานอำนาจของรัฐบาล, FBI และ CIA ซึ่งรายหลังไม่สามารถปฏิบัติภารกิจในประเทศได้ พอหนังมันทำมุมนี้ให้มีความสมเหตุสมผลเราจึงเชื่อในความสมจริงของมันได้ไม่ยากนัก
.
.
.
.
ดูแบบพากย์ไทยและซับไทยได้เลยใน Netflix: https://www.netflix.com/watch/80046311
.
.
.
.
ดูรีวิวซีรีส์ได้ที่: http://bit.ly/2STE5O4
อ่านเกร็ดหนังคั่นเวลา: http://bit.ly/2QMsEVV
หรืออยากอ่านสาระยาว ๆ แก้เบื่อ: http://bit.ly/2QnHCmb
#หนังโปรดของข้าพเจ้า